งานของมูลนิธิฯ สัมผัสผู้ยากไร้นับพันคน ทุกวัน ในชุมชนแออัดคลอดเตย ผู้คนที่นี่ทำงานหาเช้ากินค่ำ แต่ละคนต้องทำงานยาวนานกว่าปกติหลายชั่วโมงในแต่ละวัน เพื่อแลกกับค่าจ้างหรือรายได้สำหรับจุนเจือครอบครัว
สภาพชีวิตที่นี่ แตกต่างจากภายนอกโดยสิ้นเชิง คนในชุมชนต้องจ่ายค่าน้ำแพงถึงหน่วยละ 15 บาท ค่าไฟฟ้าหน่วยละ 12-20 บาท เนื่องจากที่อยู่อาศัยไม่มีทะเบียนบ้านเลขที่ จำเป็นต้องพ่วงสายน้ำ สายไฟฟ้าจากเพื่อนบ้าน ทำให้จำนวนหน่วยที่ใช้ตามมิเตอร์สูงขึ้น อัตราต่อหน่วยจึงสูงขึ้นเท่ากับอัตราของสถานธุรกิจ แม้จะใช้น้ำ ใช้ไฟ เพียงไม่กี่หน่วยในแต่ละเดือน ในขณะที่ราคาสิ่งของเครื่องใช้และค่าครองชีพสำหรับคนในชุมชนแออัดก็เท่ากับ คนทั่วไปในกรุงเทพ
บ้าน ที่อยู่อาศัยส่วนใหญ่ ปลูกสร้างด้วยไม้ พอสำหรับกันลม กันฝน เละใช้เป็นสถานที่พักกายและนอนหลับยามค่ำคืน เพื่อให้มีเรี่ยวแรงสำหรับการใช้ชีวิตต่อสู้ในวันต่อไป แต่ยามใดที่เกิดอัคคีภัย บ้านที่อยู่อาศัยก็จะมอดไหม้ไปในกองเพลิงภายในเวลาอันสั้น
งานและความช่วยเหลือของมูลนิธิฯ คือการเสริมสร้างศักยภาพให้เขาสามารถใช้ชีวิตอย่างมีเกียรติและมีศักดิ์ศรี ให้ความรู้ให้เขารู้จักสิทธิของตน ให้สามารถเข้าถึงบริการขั้นต่ำของภาครัฐ ให้รู้จักการทำงานร่วมกันเป็นหมู่คณะ และช่วยกันเสริมสร้างชุมชนให้เข้มแข็งเพื่อวันข้างหน้าที่ดีกว่าของลูกหลาน
นับแต่วันที่เริ่มดำเนินงานเป็นต้นมา มูลนิธิฯ ช่วยเหลือชาวชุมชนแออัดที่ประสบอัคคีภัยกว่า 80 ครั้ง เมื่อเกิดอัคคีภัย มูลนิธิฯช่วยในเรื่องเร่งด่วน ความเป็นอยู่เฉพาะหน้า พร้อมจัดอาหารแห้ง น้ำดื่ม รวมทั้งสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็น สำหรับผู้ประสบภัยในทันที่ เจ้าหน้าที่จะทำงานตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อดูและให้มั่นใจว่าทุกคนได้รับความช่วยเหลือ และที่สำคัญ ในวันรุ่งขึ้น เด็กๆ ต้องได้ไปโรงเรียนตามปกติ